หน้าแรก

จากสภาพอากาศที่แห้งแล้งขึ้นทุกวัน เป็นประเด็นที่สร้างความวิตกกังวลให้หลายฝ่าย โดยข้อมูลจากหน่วยงานที่ต่อสู้กับปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของสหประชาชาติระบุว่า ภายในปี 2045 ผู้คน 135 ล้านคนทั่วโลกอาจต้องละทิ้งถิ่นที่อยู่อาศัย เพราะผืนดินที่เคยอยู่และทำกินได้แปรสภาพเป็นทะเลทราย หากในอนาคตอันใกล้นี้พื้นที่บนโลกจะต้องเปลี่ยนเป็น ผืนทะเลทรายแล้วนั้น สภาพพื้นที่หลักในประเทศไทย ซึ่งเป็นพื้นที่ทำการเกษตรก็จะต้องปรับตัวเพื่อให้อยู่รอดไปด้วย

มิตรผลโมเดิร์นฟาร์ม ขอนำเสนอเทคโนโลยีที่จะเปลี่ยนพื้นที่ทะเลทรายที่แห้งแล้งให้เป็นสวนสวรรค์ที่มีความอุดมสมบูรณ์กลายเป็นพื้นที่สีเขียวขจี ด้วย Liquid nano clay (ลิควิด นาโน เคลย์)

เทคโนโลยี Liquid nano clay เป็นผลงานคิดค้นเพื่อต้องการปรับเปลี่ยนพื้นที่แห้งแล้งให้กลับสภาพมาเป็นพื้นที่เขียวขจีที่เหมาะสมกับการเพาะปลูกได้อีกครั้ง โดยบริษัทสตาร์ทอัพสัญชาตินอร์เวย์ นามว่า Desert Control ได้คิดค้นลิควิด นาโน เคลย์ (Liquid nano clay หรือ LNC) ซึ่งทำจากอนุภาคดินขนาดจิ๋วผสมกับน้ำ มีคุณสมบัติช่วยประสานอนุภาคทรายไว้ด้วยกัน ทำให้ทรายสามารถเก็บกักน้ำและสารอาหารเอาไว้ได้ จึงมีสภาพเหมาะสมสำหรับการเพาะปลูกพืชผลต่าง ๆ

นวัตกรรมนี้ช่วยให้ดินที่แห้งแล้งมีสภาพพร้อมที่จะใช้ปลูกพืชได้ภายในเวลาเพียง 7 ชั่วโมง ทั้งที่โดยทั่วไปอาจต้องใช้เวลาถึง 7 ปี กว่าจะเปลี่ยนทรายให้เป็นดินที่อุดมสมบูรณ์ได้

ซึ่งนวัตกรรมนี้ได้เข้ามาปรับใช้ในประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือ UAE ซึ่งตั้งอยู่บนภูมิประเทศที่เป็นทะเลทราย และการใช้น้ำเพื่อการเพาะปลูกใน UAE ที่สภาพอากาศร้อนระดับปานกลางจะต้องใช้น้ำมากกว่าการปลูกพืชในดินปกติเกือบ 3 เท่า จึงทำให้การเพาะปลูกพืชผลการเกษตรใน UAE เป็นเรื่องที่ทำไม่ได้จริงในทางปฏิบัติ ส่งผลให้มีอัตราการนำเข้าพืชผักผลไม้คิดเป็นสัดส่วนราว 80% ของปริมาณที่บริโภคในประเทศ

ด้วยเหตุนี้ UAE จึงได้เริ่มนำเทคโนโลยี ลิควิด นาโน เคลย์ มาพัฒนาพื้นที่ทรายให้สามารถนำมาใช้ประโยชน์ทางภาคการเกษตรได้ และจากผลการประเมินจากฟาร์มใน UAE บ่งชี้ว่า ลิควิด นาโน เคลย์ ช่วยประหยัดน้ำในการเพาะปลูกลงกว่า 50% และให้ความหวังกับพวกเขาว่าจะสามารถสร้างพื้นที่เกษตรที่อุดมสมบูรณ์ราวกับสวนสวรรค์บนโลกมนุษย์ได้สักวันหนึ่ง

IMG_2264.JPG

บทบาทของ ลิควิด นาโน เคลย์ กับประเทศไทย

ประเทศไทยเป็นประเทศที่เติบโตมาจากการหล่อเลี้ยงโดยภาคการเกษตรเป็นหลัก ทั้งใช้ในประเทศและส่งออกต่างประเทศ ซึ่งล้วนแล้วแต่ต้องพึ่งพาอาศัยทรัพยากรทางธรรมชาติ อย่างดินและน้ำเป็นหลัก ทั้งนี้ผลผลิตทางการเกษตรโดยรวมของทั้งประเทศ มีการผันแปรไปตามสภาพอากาศ ณ ช่วงปีนั้น ๆ ซึ่งในปี 2562/63 มีผลผลิตอ้อยทั้งประเทศเพียง 75 ล้านตัน ซึ่งลดลงถึง 57% จากปีก่อนหน้าที่มีผลผลิตถึง 131 ล้านตัน และอ้อยปี 63/64 ผลผลิต 66.65 ล้านตัน ลดลงจากปีก่อน 8.24 ล้านตัน นั่นเป็นผลมาจากสภาพอากาศแล้งที่สุดในรอบ 40 ปี ซึ่งเกิดผลมาจากปรากฏการณ์เอลนีโญนั่นเอง

ลิควิด นาโน เคลย์ ช่วยส่งเสริมการเพิ่มผลผลิตให้กับอ้อย

จากการที่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือ UAE ซึ่งเป็นพื้นที่ทะเลทราย สามารถใช้เทคโนโลยีนี้ เพาะปลูกข้าวโพดให้สามารถเจริญเติบโตได้ จากที่แทบจะไม่สามารถทำได้เลย แสดงให้เห็นว่าเทคโนโลยีนี้สามารถนำมาปรับใช้แก้ปัญหา ในเรื่องของสภาพพื้นที่ที่ไม่เหมาะสมกับการเพาะปลูกได้

ดังนั้นประเทศไทยในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งมีสภาพดินส่วนใหญ่เป็นดินทราย ซึ่งจะดีกว่า UAE เป็นแน่ หากสามารถนำเทคโนโลยีนี้มาศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติมและประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับสภาพดินในท้องที่ เพื่อเพิ่มผลผลิตทางการเกษตรได้

อย่างที่ทราบกันดีว่าอ้อยเป็นพืชที่ต้องได้รับน้ำในช่วงระยะปลูกให้เพียงพอพร้อมกับสภาพดินที่มีแร่ธาตุเหมาะสมเพื่อที่จะสามารถเจริญเติบโตและเพิ่มผลผลิตในปริมาณที่สร้างกำไรให้กับชาวไร่ได้ ซึ่งลิควิด นาโน เคลย์ เป็นนวัตกรรมที่มีความน่าสนใจในการนำมาศึกษาเพื่อช่วยแก้ปัญหาดินทรายและความแห้งแล้ง ในการปลูกอ้อยของประเทศไทยได้ในอนาคต

ที่มาข้อมูล-ภาพ

วารสารมิตรชาวไร่

https://www.bbc.com/

https://www.bbc.com/

 

ข่าวปักหมุด